ใครควรปฏิบัติสมาธิ

13 มิ.ย.52 14:11 น. ผู้ชมจำนวน 17124

ใครควรปฏิบัติสมาธิ

            การฝึกสมาธินั้นทำได้ทุกระดับคนไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่เพราะฝึกแล้วจะได้รับประโยชน์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แต่ระดับขั้นของสมาธิก็ต้องแตกต่างกันออกไป คือ ขั้นพื้นฐาน  ขั้นกลาง  ขั้นสูงสุด  คนที่จะฝึกสมาธิได้ง่าย  จะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณธรรมสูงจงนึกถึงหลักที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า  การไม่ทำบาปทั้งปวงหนึ่ง  การบำเพ็ญกุศลให้บริบูรณ์หนึ่ง  การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง[1]  ทั้งสามอย่างนี้เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  การทำสมาธิ  ก็คือการทำจิตให้ผ่องแผ้ว    จงสังเกตว่า  ผู้ที่จะทำจิตของตัวเองให้ผ่องแผ้วได้นั้น  จะต้องผ่านการกระทำในขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สองมาก่อน  เพราะฉะนั้นสำหรับบุคคลที่ยังทำบาปอยู่เสมอ และคุณธรรมในตัวก็ยังมีน้อย  จะไม่มีทางทำสมาธิได้  หมายถึงสมาธิขั้นอุปจาระ และอัปปนาสมาธิ  แต่นั่นคือการฝึกสมาธิขั้นสูงขึ้นไปซึ่งน้อยคนที่จะสามารถฝึกปฏิบัติได้  เพราะในส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังมีภาระกังวลมาก มีงานต้องทำ มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ  จิตก็เลยไม่สงบเพราะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างแข่งกับเวลาแข่งกับคนอื่น  เพราะฉะนั้นจึงหมดกำลังใจ ไม่คิดขวนขวายที่จะหัดสมาธิ  คนทั่วไปที่ไม่สนใจในเรื่องสมาธิก็เพราะเหตุนี้  แต่อย่างไรก็ดีจะแบ่งระดับบุคคลที่ควรฝึกสมาธิไว้เป็น 4 วัยคือ

1.      วัยเด็ก  เป็นวัยที่กำลังเรียนหนังสือเมื่อเด็กฝึกสมาธิควบคู่ไปกับการเรียนแล้วก็จะทำให้

เรียนหนังสือดี มีความมั่นใจในตัวเอง  มีบุคลิกดี สุขภาพจิตสุขภาพกายดี

2.      วัยหนุ่มสาว หรือวัยนักศึกษา เป็นวัยที่กำลังจะเข้าศึกษาหรือศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย 

เมื่อเขาฝึกสมาธิไปด้วยศึกษาค้นคว้าไปด้วยผลการเรียนออกมาเกรดก็จะดี  เรียนก็เข้าใจรู้เรื่องในรายวิชาที่อาจารย์บรรยาย  ซึ่งตรงกันข้ามกับคนขาดสมาธิอาจารย์บรรยายก็ไม่เข้าใจไม่ค่อยรู้เรื่อง  

3.      วัยทำงาน  คนที่อยู่ในวัยทำงานก็สามารถฝึกสมาธิควบคู่ไปกับการทำงานได้เวลาทำงาน

ออกมาแล้วงานจะได้ไม่พลาดพลั้ง จะมีความละเอียดรอบคอบในการตัดสินใจในงานต่าง ๆ ที่ทำ และมีความสุขสนุกไปกับการทำงาน

4.      วัยผู้สูงอายุ  เป็นวัยที่ควรจะปฏิบัติสมาธิอย่างจริงจังเพื่อให้มีสมาธิขั้นสูงขึ้นไปกว่าสมาธิ

ขั้นพื้นฐาน เพราะเป็นวัยที่ใกล้ฝั่งแล้ว  ถ้าตัดปลิโพธกังวลได้แล้วก็อาจจะไปศึกษาปฏิบัติตามสำนักปฏิบัติเพื่อความก้าวหน้าไปสู่ขั้นวิปัสสนาก็ได้

อย่างไรก็ตามอยากให้คนทั่วไปได้มีสมาธิควบคู่กันไปกับการเรียนหนังสือ การทำงาน การทำ  พูด คิด  ไม่ต้องถึงขั้นอุปจารสมาธิ แต่ให้มีเพียงขณิกสมาธิก็พอแล้ว   วิธีฝึกสมาธิสำหรับคนทั่วไปชนิดที่ทุกคนสามารถจะทำตามได้และได้รับผลด้วยตามสมควร  วิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้  เป็นวิธีที่ได้ผลแน่นอนเฉพาะสมาธิขั้นต้นหรือสมาธิขั้นพื้นฐานเท่านั้น  แต่ก็พอที่จะทำจิตใจให้สงบสบาย  และมีสมรรถภาพในการประกอบกิจการงานต่าง ๆ ในหน้าที่ได้

            สมาธิขั้นธรรมดาก็คือ  เมื่อเราต้องการจะอ่านหนังสือ  เขียนหนังสือ  ต้องการจะใช้ความคิดอย่างละเอียดหรือเมื่อต้องการจะหลับ  ก็สามารถที่จะผลักความคิดที่ไม่ต้องการออกไปได้ง่าย  ซึ่งสมาธิขั้นนี้เป็นของจำเป็นสำหรับทุกคน  โปรดอย่าชะล่าใจว่า  สมาธิขั้นนี้เราก็มีอยู่แล้ว  ไม่ต้องฝึกก็ได้  คนที่มีร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วถ้าไม่หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ  ร่างกายย่อมไม่แข็งแรง  ข้อนี้ฉันใด  คนที่มีสมาธิแม้ว่าจะอยู่ในขั้นที่ใช้การได้  แต่ถ้าไม่หมั่นฝึกไว้  สมาธิก็เสื่อมได้ง่ายฉันนั้น  และถ้าหากคนไหนสมาธิเสื่อม  เช่นเวลาจะนอนหลับกว่าจะหลับได้  บางทีต้องเสียเวลาตั้งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงอย่างนี้เป็นต้น  ฉะนั้นแล้วท่านลองพิจารณาดูด้วยตนเองก็แล้วกันว่า  มันเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เพียงไร  เพราะคนที่นอนไม่ค่อยจะหลับนั้น  ย่อมหมายถึงสมรรถภาพของสมองจะเสื่อมโทรมลงเร็วเกินกว่าอายุที่ควรจะเป็นและที่ร้ายที่สุดก็คือ  คนที่สมาธิไม่ดีนั้น  สุขภาพทางจิตจะดีไม่ได้  การฝึกสมาธิก็คอการฝึกให้มีสติอยู่กับตัว  เพราะฉะนั้นหลักใหญ่ของการฝึกสมาธิจึงมีอยู่ว่าท่านกำลังพูด  กำลังทำ  กำลังคิดอะไรอยู่ก็ตาม  ต้องพยายามหัดให้มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าขณะนี้ตนเองกำลังพูด  กำลังทำ  กำลังคิดอะไรอยู่                                


หัวข้ออื่นๆ

บทนำความหมายของสมาธิประโยชน์ของการฝึกสมาธิปฏิบัติสมาธิแล้วได้อะไรวิธีเจริญสมาธิใครควรปฏิบัติสมาธิสรุป

© Copyright 2007-2012 www.Watdon.net All rights reserved.